
หลงความคิด หลงสมมุติ
ถ้าเราไม่หลงสมมุติ เช่น
ลูกหลานเราชื่อกบ ชื่อเขียดก็ไม่เห็นเป็นไร
แต่ถ้าเราหลงสมมุติ เช่น เขาด่าว่าเรา
เราก็โกรธเขา เจ็บช้ำน้ำใจ
เพราะเราไปหลงคำพูดเขา
แล้วก็หลงความคิดตัวเอง
เอาคำพูดเขามาทับความรู้สึกนึกคิดเจ้าของ
เราข้ามตรงนี้ไม่ได้ ก็อยู่ตรงนี้แหละ
ที่ว่าจะเกิดประโยชน์ หรือไม่เกิดประโยชน์
ถ้าหมดชีวิตไปขณะนั้น
จะไปสู่สุคติได้อย่างไร
ตั้งแต่ยังไม่หมดชีวิต ก็เป็นทุกข์อยู่แล้ว
แล้วจะไปพูดอะไร เรื่องสุคติ
หากทำใจกันไม่ได้อยู่อย่างนี้
ขณะเรากำลังจะตาย เราแยกแยะ
เรื่องเวทนา เรื่องใจ
ให้มันเป็นอุเบกขา เวทนาให้ได้
แต่ถ้าเป็นทุกขเวทนาอยู่
ก็ยากที่จะไปสู่สุคติได้
คนที่มาภาวนานี้ให้สังเกต
ถ้ามีอะไรมากระทบอารมณ์
มากระทบหู กระทบตา ที่ไม่ถูกอารมณ์
จะต้องรู้ทันทีว่า
เขาให้ “ข้อสอบ ให้การบ้าน ให้ข้อคิด’
จะสอบได้ไหม จะผ่านได้ไหม
ให้ประเมินตนเองทันที
มิใช่รับแล้ว ไปโกรธเขา
ถ้าโกรธเขา
แสดงว่า ไม่ใช่ผู้ที่จะมาแก้ไขจิตใจตนเอง
มีแต่ลมปาก มีแต่การจำได้หมายรู้ เฉยๆ
ถ้าเราทำใจให้สูงกว่าเขา
มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ภูติ ผี ปีศาจก็ไม่สามารถมาครอบงำเราได้
เพราะจิตใจเราสูงกว่า เขาจะเกรงเราเอง
อะไรจะสูงยิ่งกว่าภูมิจิต ภูมิธรรม ไม่มี
๒๔ ก.ค. ๒๕๕๗ ก่อนสวดมนต์เย็น