
คือการเวียนว่ายตายเกิด
คือมรณภัย
ทำอย่างไร เราจึงจะหนีได้
เราต้องพิจารณาทางใจให้มาก
เป็นเรื่องของเราที่จะวิเคราะห์ จะพิจารณา
การทำบุญแจกทาน ที่เรากำลังจะทำนี้
เป็นวัฒนธรรมนะ
ผู้ที่จะมารับ เป็นผู้ไม่มีกรรม
ถ้ามีกรรมมารับไม่ได้
เหมือนคนป่วยคนติดคุกติดตะราง
มารับไม่ได้
คนเราอยู่ด้วยกัน ต้องรู้จักนิสัยใจคอกัน
ถ้ารู้จักกันก็ไม่โกรธไม่เคืองกันง่าย
ถ้าไม่รู้จักกัน ก็ทะเลาะเบาะแว้ง
ทำอันตรายกัน เกิดความฉิบหาย
แก่กันได้ง่าย เหมือนสังขารร่างกาย
กับจิตใจ ก็เหมือนกัน
ท่านให้พิจารณากาย พิจารณาใจ เป็นหลัก
มันข้องอยู่กับกาย ก็ให้พิจารณากาย
มันข้องอยู่กับอารมณ์ ก็ให้พิจารณาอารมณ์
ทำอย่างไรจึงจะผ่านได้ ปล่อยได้ วางได้
ข้องอยู่กับลูก กับหลาน
ทำอย่างไรจึงจะข้ามลูก ข้ามหลานได้
สมมุติว่าเราตายกลางค่ำกลางคืน
เขาต้องอยู่ได้
เหมือนพ่อแม่เราตาย เรายังอยู่ได้
ยังอยากได้ อยากดีได้อยู่
เราก็ต้องคิดหาวิธีที่จะปล่อยจะวางให้ได้
เป็นเรื่องของเรา
เราก็จะไม่เป็นทุกข์
เรื่องเมตตา ก็มีอยู่แล้ว
แต่เราก็ต้องปล่อยวางได้
เราดูธรรมชาติ ก็รู้
เหมือนใบกล้วย ใบชิง ใบข่า
แห้งติดตันอยู่อย่างนั้นแหละ
ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ เลย
ไม่หนีจากลำต้นได้
เป็นเรื่องของเราจะวิเคราะห์เอา
พิจารณาเอา
จะวิเคราะห์ จะพิจารณาหรือไม่
ก็เป็นเรื่องของเรา
จะตั้งใจ ก็ตั้งแต่เวลานี้เท่านั้น
หมดชีวิตไปแล้ว ตั้งใจไม่ได้
๙ ส.ค. ๒๕๕๗ ก่อนสวดมนต์เย็น