๔๔|ธรรมชาติไม่มีอะไรกั้นกลาง

สิ้นเกิดประเสริฐสุด
สิ้นเกิดประเสริฐสุด
สิ้นเกิดประเสริฐสุด
เราควบคุมคนอื่นไม่ได้ ก็ไปโกรธเขา
ไม่เห็นโกรธเจ้าของ ที่ควบคุมตนเองไม่ได้
วัน เดือน ปี มีอยู่เหมือนเดิม
แต่สังขารร่างกาย ไม่อยู่เหมือนเดิม
เดินไปเรื่อยๆ
ความหิว ความอยาก ไม่ได้แยก ลัทธิต่าง
ถือทิฏฐิมานะ ของเช่นเดียวกัน
ความหิว ความอยาก มีเหมือนกันหมด
แต่ต่างกันที่วัฒนธรรม คือ อัตตา
ความหิวความอยาก มีอยู่ในใจ อยู่แล้ว
เหมือนเราคิดอยากไปหมด
ในอาหารแปลกๆ เป็นเรื่องของใจ
เรื่องของวัฒนธรรมเป็นอีกอย่างหนึ่ง
เป็นเครื่องกั้นทางสังคม
ธรรมชาติไม่มีอะไรกั้นหรอก
ไม่ว่าใครๆ ที่ไหนๆ ก็สุข ทุกข์ กายใจ
เหมือนกันหมด
ความอยาก มีเหมือนกันหมด
ไม่เฉพาะชาวพุทธที่เป็นโรคทางใจ
สัตว์โลก อยู่ในสภาวะเดียวกัน
ก็เป็นโรคประสาทได้เหมือนกันกับเรา
ธรรมชาติ ไม่มีอะไรกั้นกลาง
มีแต่เรื่องสมมุติ มากั้นกลางกัน
เป็นวัฒนธรรมของใครของมัน
ถือเรา ถือเขา ถืออัตตา
ทำให้เกิดทิฏฐิมานะ
ธรรมชาติถ้าเข้าถึงธรรมจริงๆ แล้ว
ไม่มีอย่างนี้หรอก
อยู่ด้วยกันร่วมโลก ก็เหมือนต้นไม้ภูเขา
มีต้นสูง ต้นต่ำ ต้นโค้ง ต้นคด
ต้นเป็นประโยชน์ เป็นโทษ
สังเกตดูต้นที่เป็นโทษ
ไมไปเกี่ยวข้องกับใคร ก็ไม่เป็นปัญหา
เช่นตัน หมามุ่ย หรือต้นที่มันเป็นพิษ
ถ้าเราไม่ไปเกี่ยวข้องกับมัน
มันก็ไม่เป็นปัญหา
ใจเราเหมือนกันถ้าไม่ไปให้ความสำคัญ
ในทางผิด ทางถูก
มันก็ไม่นำโทษ นำคุณมาให้
แต่ถ้าเราไปให้ความสำคัญ
มันก็บ่งบอกทางกิริยา
ถ้าเรามีธรรมเป็นเครื่องประเมินตลอด
โอกาสที่จะนำโทษมาให้แก่เราก็มีอยู่
แต่มีน้อย
๒๔ ก.ค. ๒๕๕๗ ก่อนสวดมนต์เย็น

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *