

หากมันไม่งอกงาม ไม่ได้ผล
เพราะฝนแล้งหรือน้ำท่วม
เราก็ต้องปลูกผัก สำรองเอาไว้
เพื่อให้ได้ชดเชยกัน
อันนี้เราเอาความสงบไม่ได้
เราก็พิจารณาเอา
พิจารณาสังขารร่างกายเรานี้แหละ
เราหาอยู่หากินมาเท่าไหร่แล้ว
ก็พอหายเหนื่อย หายหิว
ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น
ไม่มีที่สิ้นสุด
ผลสุดท้ายเคยกินได้ ก็กินไม่ได้
เคยนอนได้ ก็นอนไม่ได้
เคยมีกำลังวังชา ก็ไม่มีกำลังวังชา
มันก็อยู่แบบนี้ตลอดปี ตลอดชาติ
ผลสุดท้าย กำลังวังชาก็น้อยลงไป น้อยลงไป
พอหมดแรงแล้ว เราจะไปอาศัยอะไร
ก็ถามเราแบบนี้ สังเกตดูก็จะรู้
มันเป็นเครื่องประเมินดูตัวเรา
ถ้าเราน้อมมาเป็นธรรม ไม่ให้ออกจากตัวเรา
อย่าให้ใจออกจากตัวเรา
อย่าส่งใจออกจากเรื่องของเจ้าของ
เพราะคนอื่น ก็มีรูป มีเสียง มีกลิ่น มีรส
มีความไม่เที่ยง มีความพลัดพราก
เหมือนกับเรา
ก็วิเคราะห์กันอยู่แบบนี้
ไม่ได้อย่างหนึ่ง ก็เอาอย่างหนึ่ง
เรียกว่า อ่านตำราในใจ
๑๒ ส.ค. ๒๕๕๗ ก่อนสวดมนต์เย็น