


ไม่ใช่เรื่องของใจ
คนเรามีจิตวิญญาณที่ไม่ตาย
จึงกลับมาเกิดได้
ท่านจึงให้ควบคุมจิตวิญญาณ
ให้อยู่ใต้อำนาจ สติ
ฝึกฝนให้ได้ เมื่อหมดชีวิตไปก็ไม่ต้องห่วง
ตรงนั้นท่านจึงว่า สุคโต เป็นที่ตั้ง
ถ้าเราฝึกไม่ได้ก็ตกเป็นทาสอารมณ์
เพราะขาดสติ
หมดชีวิตไป วิญญาณก็เร่ร่อน
เป็นสัมภเวสี ไม่มีจุดหมายปลายทาง
ไปตามกรรมที่เราสร้าง
กรรมผลักไสไปทางไหน ก็ไปตามนั้นแหละ
เหมือนเปลือกผลไม้ จะไม่รู้รสของเนื้อผลไม้
แม้จะอาศัย อยู่ด้วยกันก็ตาม
เหมือนสังขาร ร่างกายเรา
ไม่สามารถรู้ได้ว่าจะจากเราไปเวลาไหน
จะไปเกี่ยวข้องกับภพชาติต่อไปในทางดี
ทางไม่ดี
ก็ไม่สามารถจะรู้ได้ เพราะอะไร
อยู่ด้วยกัน ก็ไม่รู้กัน
ท่านจึงว่าไม่ให้ประมาท
ให้ศึกษาดูก่อน พิจารณาดูก่อน
ติดอันไหน ของอันไหน
ก็ให้พิจารณาอันนั้น แก้ไขอันนั้น
ถ้าเราแก้ไขไม่ได้ ปล่อยวางไม่ได้
ตอนเรามีชีวิตอยู่
โอกาสที่จะผ่านได้ ก็ยาก
ทำอย่างไรจึงจะผ่านได้
ตรงนี้สำคัญ
เราทำอะไร ให้ระลึกถึงพระธรรมคำสอน
ของพระพุทธเจ้าเป็นหลัก
บุญบารมีท่านสูงส่งกว่าพวกเรา
ทุกสิ่งทุกอย่าง
รูปธรรม นามธรรม ความสุข ความทุกข์
ทางกาย ทางใจ มีอยู่ด้วยกันทุกคน
การฝึกให้ปล่อยวาง ตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่
เราปล่อยวางได้ ก็ไปได้
ไม่เป็นสุข ไม่เป็นทุกข์
ปฏิบัติทางใจไม่ได้
ก็ขอให้ปฏิบัติทางกายให้ได้
อย่างน้อยก็ได้ปฏิบัติบูชาคุณ
ที่ท่านพาดำเนินมา
ท่านั่งภาวนา สามารถทนทุกข์ได้
ท่านั่งทางกาย แต่เดินทางใจ
คือเดินทางสติปัญญา
เพื่อแก้ไข เวทนา ออกจากกาย ออกจากใจ
คือปล่อยวาง
แต่เราภาวนา เพื่อจะยึด
มันต่างกันตรงนี้
เราทำไม่ได้ เพราะเราทำน้อย
ถ้าเราทำมาก ก็จะเข้าใจเอง