๖๗|อิ่มจริง

สิ้นเกิดประเสริฐสุด
แต่ละบุคคลมีความแดกต่างกันอยู่แล้ว
ต้องดูที่เจ้าของ
เพราะถ้าเจ้าของไม่มาเกิด ก็หมดปัญหา
เรารู้จักปล่อยวาง ก็จะไม่เกิดความเครียด
ให้ใช้สติปัญญา ทุกอย่างเป็นอยู่แบบนี้
ไม่ว่าคนว่าสัตว์ ภูตผีปีศาจ
อยู่ในสภาวะเดียวกัน แต่ต่างกันที่ฐานะ
ที่ว่าอยู่ในสถานะเดียวกันเพราะว่า
มันมีกรรมเป็นของของตน คือ
มโนกรรม
ไม่มีใครที่จะปลอดจากตรงนี้
นอกจากพระอรหันต์
จิตล่วงจากสังขารไปแล้ว
ก็หมดภาระจริงๆ
เหมือนเราทานอาหารอิ่มแล้ว
ก็หมดภาระแล้ว
ความหิวเคยมี มันก็ไม่หิว
เหมือนเรานอนอิ่มแล้ว เคยง่วงนอน
มันก็ไม่อยากนอน
ถึงจะมีเตียง มีพูก มีห้องพิเศษ
พิสดารแค่ไหน ก็ไม่อยากนอน
เพราะเรานอนอิ่มแล้ว
ถ้ามันอิ่มจริง มันก็เป็นแบบนี้
แต่โลกอันนี้มันไม่อิ่มจริง
เพียงแค่บรรเทาเท่านั้น
แค่เปลี่ยนสภาวะ เปลี่ยนอิริยบถ
ของธาตุ ของขันธ์
มันไม่ได้หรอก ที่ว่าได้จริง
เปลี่ยนกันอยู่แบบนี้
เดี๋ยวก็สุข เดี๋ยวก็ทุกข์ อยู่แบบนี้
คำว่าสุข หมายความว่า
ไม่มีอะไรรบกวนใจ แค่นั้นแหละ
อยู่ในสภาวะเดียวกันไม่ว่าคน ไม่ว่าสัตว์
ใครจะทำแบบไหนก็รีบทำเสีย
ขณะมีชีวิตอยู่
อย่าไปเชื่อเรื่องไม่มีสาระประโยชน์
เรื่องฤกษ์เรื่องยาม
เพราะพระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้หมดแล้ว
สังขาร ก็คือสังขาร
ธรรมชาติ ก็คือธรรมชาติ
มันไม่อยู่ใต้อำนาจของใจที่อยาก
ก็เหมือนผลหมากรากไม้
มันก็เป็นไปตามสายพันธ์ของมัน
ต้นเล็ก ต้นใหญ่ เม็ดเล็ก เม็ดใหญ่
พระพุทธเจ้าสร้างใจได้
จึงยิ่งใหญ่ได้ขนาดนี้
คนเกิดสูง เกิดต่ำ ก็สร้างใจ
จะฉลาดจะโง่แบบไหน ก็เรื่องใจ
ถ้าขาดใจรับผิดชอบอย่างเดียว ก็หมด
๒๐ เม.ย. ๒๕๕๘ ก่อนฉันจังหัน

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *